เริ่มตั้งตู้ - 1 สัปดาห์
- เปลี่ยนน้ำทุกวัน
- ใช้ NA Carbon ช่วยในการดูดซับสารเคมีและลดน้ำเหลือง
- ให้ CO2 ปริมาณ 1 ฟองต่อวินาที
- ใช้ Brighty K หรือ Chlor-off เพื่อกำจัดคลอรีนในน้ำประปา
- ปรับความถี่ในการเปลี่ยนน้ำเป็นทุก 2 วัน
- ใช้ชุดทดสอบ NH4 เพื่อวัดค่า Ammonium(NH4) ในน้ำ และบันทึกค่าเพื่อดูการพัฒนาของระบบกรองชีวภาพ
- เริ่มใช้ปุ๋ยน้ำ STEP 1 + Brighty K ทุกวันเพื่อช่วยให้ไม้น้ำแตกใบใหม่ได้เร็วขึ้น
- เก็บใบไม้เก่าที่เน่าเสียออกจากตู้ไม้น้ำ
- ปล่อยกุ้งยามาโตะ (Caridana japonica Otocinclus sp.) เมื่อมีตะไคร่ Diatom เกิดในตู้
- ใช้ชุดทดสอบ NH4 และ NO2 เพื่อหาปริมาณ Ammonium และ Nitrite ในน้ำ และบันทึกค่าเพื่อดูการพัฒนาของระบบกรองชีวภาพ
- ปรับความถี่ในการเปลี่ยนน้ำเป็นทุก 3 วัน
- ปรับความถี่ในการเปลี่ยนน้ำเป็นทุกสัปดาห์
- เมื่อไม้น้ำเริ่มมีการเจริญเติบโต ปรับปริมาณ CO2 เป็น 2 ฟองต่อวินาที
- ทำการตัดแต่งไม้น้ำ หากไม้น้ำโตจนถึงผิวน้ำ และใช้ Green Gain เพื่อลดความเครียดของไม้น้ำหลังการตัดแต่ง
- เมื่อครบ 1 เดือน และพบว่าค่า NH4 และ NO2 ลดลงอย่างต่อเนื่อง ก็สามารถลงปลาได้
- เปลี่ยนเอา NA Carbon ออกจากระบบกรองและแทนที่ด้วย Bio Rio
- เมื่อไม้น้ำโตจนหนาแน่น ก็สามารถปรับปริมาณการให้ CO2 เพิ่มเป็น 3 ฟองต่อวินาทีหรือมากกว่าได้
- เปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยน้ำ STEP 2 + Brighty K โดยใส่ทุกวัน
- เปลี่ยนวัสดุกรองแบบกายภาพทั้งหมดให้เป็นวัสดุกรองชีวภาพ
- ใช้ ECA เพื่อปรับปรุงสีสันของใบไม้น้ำ
- เมื่อถึง 5 เดือน ใช้ปุ๋ยฝัง Multi Bottom หรือ Iron Bottom ตามความเหมาะสมของพรรณไม้น้ำ
- เปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยน้ำ STEP 3 + Brighty K โดยใส่ทุกวัน
- อาจใช้ปุ๋ย Special SHADE หรือ Special LIGHT เสริมได้ หากในตู้มีปลาน้อยและปริมาณปุ๋ย N และ P ที่เหลือจากปลามีไม่มากพอต่อการเจริญเติบโตของไม้น้ำ ห้ามใช้ถ้าตู้มีปัญหาตะไคร่น้ำ
การตรวจค่าต่างๆ ของน้ำในตู้ไม้น้ำ
เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องตรวจหาค่า ammonium(NH4), Nitrite(NO2) ในช่วงเริ่มต้นเพื่อให้แน่ใจว่าระบบกรองชีวภาพพัฒนาและทำงานได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังต้องวัดค่า pH เพื่อตรวจสอบว่าปริมาณ CO2 ที่ให้ มีปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยไป
การตัดแต่งไม้น้ำ
การตัดแต่งไม้น้ำในระยะเวลาที่เหมาะสม นอกจากจะทำให้ได้ Layout ที่สวยงามตามที่ตั้งใจไว้ ยังช่วยไม่ให้ส่วนล่างของไม้น้ำที่ไม่โดนแสงโทรมอีกด้วย
การให้อาหารปลา
การให้อาหารปลามากเกินไปจะทำให้เกิดปัญหาตะไคร่ได้ เนื่องจากจะทำให้เกิด Nitrate และ Phosphate ในตู้มากไป แต่การให้อาหารน้อยเกินไปก็จะทำให้ปลามีสีสันและรูปร่างที่ไม่สวยงาม ดังนั้นปริมาณอาหารที่ให้ปลาควรมีความเหมาะสม ควรให้อาหารแต่พอดีที่ปลาทานหมด และควรให้ทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง แทนการให้มากแต่น้อยครั้ง
การเปลี่ยนน้ำ
ในช่วงเริ่มต้นตั้งตู้การเกิดสารส่วนเกินต่างๆ ในน้ำจะเกิดขึ้นมาก ไม่ว่าจะจากดินใหม่ ต้นไม้เปลี่ยนใบ และระบบกรองชีวภาพที่ยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์ ทำให้การเปลี่ยนน้ำบ่อยเป็นเรื่องจำเป็นมาก หลังจากนั้นเมื่อพ้นระยะเริ่มต้น ก็สามารถปรับการเปลี่ยนน้ำเป็นทุกสัปดาห์ได้ ปริมาณการเปลี่ยนน้ำที่เหมาะสมคือ 1/3 ถึง 1/2 ของปริมาณน้ำในตู้ทั้งหมด และต้องแน่ใจว่าน้ำที่ใช้เปลี่ยนจะต้องไม่มีคลอรีน
การใส่ปุ๋ยน้ำ
ปุ๋ย ADA จะเป็นปุ๋ยที่ได้รับการออกแบบมาให้มีรูปแบบการใส่แบบรายวัน เพื่อให้สามารถรักษาระดับความคงที่ของความเข้มข้นของสารอาหารที่ละลายอยู่ในน้ำได้อย่างดี โดยจะมีปุ๋ยที่ออกแบบมาแตกต่างกันเพื่อให้ไม้น้ำได้รับปริมาณสารอาหารแต่ละประเภทเหมาะสมกับการเจริญเติบโตในแต่ละช่วง
การล้างระบบกรอง
การล้างระบบกรองเป็นประจำในระยะเวลาเหมาะสมจะช่วยให้ระบบกรองและแบคทีเรียที่มีประโยชน์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ตามการล้างกรองจะต้องใช้วิธีล้างอย่างถูกต้องและไม่ทำลายแบคทีเรียที่เกาะอยู่ที่วัสดุกรอง
หวังว่าคำแนะนำเหล่านี้น่าจะช่วยให้ทุกท่านมีตู้ไม้น้ำที่สวยงามสดใสได้อย่างใจครับ :)
Aquaupa.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น